10 สิ่งที่เราควรลงทุนมากกว่าเงิน โดย “Warren Buffett” ที่จะทำให้คุณ รู้แล้ว “ประสบความสำเร็จ” ขึ้นแน่นอน

เราควรลงทุนกับอะไร? 

10 สิ่งน่าลงทุนที่ Warren Buffett กล่าวไว้ ไม่ใช่แค่ เงินกับความรู้

มีอะไรบ้างไปดูกัน...

1. ลงทุนในชีวิต
บัฟเฟตต์  มักพูดเสมอว่าสิ่งที่ควรลงทุนมากที่สุด คือการลงทุนในชีวิตของตัวเอง เพราะตัวเราเองคือสินทรัพย์ที่มีค่ามากที่สุด และลงทุนในการหาสิ่งที่คุณรักให้เจอ จะเป็นงานอะไรก็ได้ที่ทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ตื่นมาในทุกๆ เช้า

2. ลงทุนในความรู้
บัฟเฟตต์ เป็นคนที่ใช้เวลากับการอ่านหนังสือในแต่ละวันมากถึง 5-6 ชั่วโมง เขาเชื่อว่าการอ่านหนังสือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุด และเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จในวันนี้

3. ลงทุนในการสื่อสาร
การพูดต่อหน้าผู้คนในที่สาธารณะ เป็นจุดอ่อนสำคัญของบัฟเฟตต์ ที่เขาพยายามปรับปรุงด้วยการลงทุนไปเรียนคอร์สการพูดกับ เดล คาร์เนกี (Dale Carnegie) สุดยอดนักพูดโน้มน้าวใจ เขาเคยบอกไว้ว่า การเรียนครั้งนี้เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุด เพราะมันจะไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้ามีไอเดียที่ดี แต่ขาดศักยภาพที่จะถ่ายทอดความคิดเหล่านั้นกับคนอื่นได้ ฉะนั้นการลงทุนกับสิ่งที่คิดว่ามีประโยชน์ต่อตนเอง จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม

4. ลงทุนในสิ่งเดียวที่คุณถนัด
บัฟเฟตต์ไม่เคยสนใจเรื่องอื่นนอกจากการลงทุน เขาเลือกโฟกัสเพียงสิ่งเดียวที่มั่นใจว่าตนเองถนัด และมุ่งมั่นกับมันให้ถึงที่สุด ทำให้เขาแทบไม่เคยขาดทุนในการลงทุนของตนเอง เพราะเขาเลือกลงทุนกับสิ่งที่รู้จริงเท่านั้น

5. ลงทุนในความได้เปรียบทางการแข่งขัน
ถ้าคุณทำธุรกิจอะไรสักอย่าง ในช่วงที่ขายดีคงมีคนอีกมากมายที่อยากเปิดธุรกิจมาแข่งขันกับคุณ เพราะระบบทุนนิยม มักมีคนพยายามแย่งชิงปราสาทจากคุณอยู่เสมอ ฉะนั้นคุณต้องสร้างปราสาทให้แข็งแกร่งที่สุด และมีแต้มต่อในการแข่งขันเหนือกว่าเจ้าอื่น

6. ลงทุนในคน
คุณสมบัติ 3 เรื่องของคนแบบที่บัฟเฟตต์อยากลงทุน คือซื่อสัตย์ ฉลาด และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน เขาย้ำเสมอว่าความซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด เพราะหากไม่มีสิ่งนี้ แม้จะเป็นคนไม่ซื่อสัตย์แต่ขยันมาก บริษัทก็ถูกโกงมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้นเอง

7. ลงทุนในความซื่อสัตย์
ความซื่อสัตย์เป็นหัวใจสำคัญของจรรยาบรรณในการทำธุรกิจ แม้คุณจะหาเงินได้มากมายเท่าไร แต่ถ้ามันไม่ยั่งยืนและทำให้ความสัมพันธ์ไม่ดี มันไม่มีทางการันตีได้เลยว่าการลงทุนของคุณจะทำกำไรกลับมา แถมมันยังอาจส่งผลให้ชีวิตคุณตกต่ำย่ำแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ

8. ลงทุนในเวลา
วิธีบริหารเวลาของบัฟเฟตต์ คือ เขาไม่มีการประชุม ไม่ทำงานเป็นระบบ เขามักนั่งนิ่งๆ คิดเรื่องการลงทุน และอ่านหนังสือ เพราะธุรกิจการลงทุนทำงานด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว หน้าที่ของเขาคือการจัดสรรการลงทุนให้คุ้มค่าที่สุดเท่านั้น เขายังเสริมอีกว่าทุกคนไม่จำเป็นต้องทำแบบเดียวกับเขา เพียงแต่ต้องพยายามจัดสรรเวลาของตนเองให้มีเวลาว่างมากพอที่จะคิดค้นอะไรใหม่ๆ และหาแนวทางให้คุณได้ใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

9. ลงทุนในการไม่ลงทุน
บางครั้งการไม่ลงทุน อาจหมายถึงคุณได้ลงทุนสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตนเองมาแล้ว บัฟเฟตต์เป็นคนที่ใช้ชีวิตสมถะมาก เขาไม่มีบ้านที่หรูหรา ใช้ชีวิตเช่นเดียวกับคนธรรมดา ที่เขาเป็นเช่นนี้เพราะเชื่อว่าตนเองได้ลงทุนสิ่งที่ดีที่สุดไปแล้ว นั่นคือการทุ่มเงิน 99% ไปกับการกุศลในมูลนิธิ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น

10. ลงทุนในความรัก…ที่ไม่ต้องหวังกำไร
บัฟเฟตต์เห็นคำแนะนำข้อนี้ผ่านการกระทำของพ่อตัวเอง พ่อเขาแสดงให้เห็นถึงความรักที่ไม่มีเงื่อนไข และเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เขาเชื่อว่าถ้าใครสามารถมอบความรักให้กับลูกอย่างไม่มีเงื่อนไข นั่นเท่ากับคุณสำเร็จในการลงทุนนี้ไปแล้ว 90% ของชีวิต เช่นเดียวกันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เราอาจทำไม่ได้ตลอดเวลา เพียงแค่ทำอย่างไรก็ได้ให้ลูกรู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่ได้กลับบ้าน แค่นั้นคุณก็ได้ให้ความรักอย่างไม่มีเงื่อนไขที่แท้จริงแล้ว

.
นี่คือสิ่งที่เราควรลงทุน ที่อาจไม่ใช่เงินทอง แต่จะต้องลงทุนกับสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข
.
" เงิน" ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนสุขภาพของคุณให้ดีขึ้นได้
.
" เงิน" ไม่สามารถเปลี่ยนความรักของคนอื่นที่มีแต่คุณได้
.
" เงิน" ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต

ขอบคุณข้อมูลจาก  thestandard.co/ เพจ พ่อสอนการลงทุน